ทีมชาติฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับทีมชาติสเปนได้แบบหวุดหวิด หลังดวลจุดโทษเอาชนะทีมชาติโปรตุเกสในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
โปรตุเกส จัดแนวรุกเต็มอัตราศึกนำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วน ฝรั่งเศส ไม่มี อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ติดโทษแบน เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ได้เล่นแทน โดยที่แนวรุกยังมี คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นตัวทีเด็ด
โอกาสลุ้นจะแจ้งครั้งแรกเป็นทาง ฝรั่งเศส ที่ได้โอกาสในนาที 20 เตโอ แอร์กน็องเดซ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนกดเต็มหลังเท้าซ้าย ทว่าบอลไม่ห่างตัว ดีโอโก้ คอสต้า จึงทุบทิ้งได้เยี่ยม
ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ฝรั่งเศส ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังหาโอกาสเพิ่มอีกไม่ได้ ขณะที่โปรตุเกสก็ตั้งรับได้อย่างแข็งแกร่ง
ท้ายครึ่งแรกนาที 42 โปรตุเกส ได้ลุ้นยิงครั้งแรกจากฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องทางซ้าย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้โอกาสปั่นข้ามกำแพงก่อนหลุดกรอบออกหลังไป จากนั้นจบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังนาที 61 โปรตุเกส มีลุ้นจาก ชูเอา กานเซโล่ ไหลทะลุช่องให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตามไปยิงด้วยขวา ไมค์ เมนญอง ซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้ และจากจังหวะต่อเนื่องกัน กานเซโล่ ได้ยิงไกลด้วยซ้าย แต่ไม่เข้ากรอบ
ทัพฝอยทองน่าจะได้ประตูสุดๆ ในอีก 2 นาทีถัดมา ราฟาเอล เลเอา ลุยขึ้นทางซ้ายก่อนจ่ายให้ วิตินญ่า วิ่งสอดมายิงโล่ง เมนญ็อง ผวาปัดทิ้งหวุดหวิด บอลไม่พ้นอันตราย โรนัลโด้ ได้ตอกส้นจ่อๆ แต่ก็ติด เมนญอง ออกหลังอีก
ฝรั่งเศส เกือบได้เช่นกันในนาที 66 ร็องดาล โกโล มูอานี่ ตัวสำรองได้หลุดเข้าไปวอลเลย์เน้นๆ ในเขตโทษ ทว่า รูเบน ดิอาส พุ่งมาบล็อกโดนนิดหนึ่งทำให้บอลเด้งถากเสาออกหลังไปแบบเสียวไส้สุดๆ
นาที 70 ตราไก่พลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง อุสมาน เดมเบเล่ เปิดแฉลบเข้าทาง เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ยิงด้วยขวาจ่อๆ ทว่าหักข้อเท้ามากไปทำให้บอลหลุดเสาไกลออกหลังน่าเสียดาย
เดมเบเล่ ลงสำรองมาแล้ววูบวาบต่อเนื่อง นาที 70 เลี้ยงจากซ้ายตัดเข้าในก่อนยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ บอลโค้งก่อนเช็ดเสาออกไปอีก
ท้ายเกม ฝรั่งเศส มีโอกาสหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ ดีโอโก้ คอสต้า ทำให้จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ช่วงต่อเวลานาที 93 โปรตุเกส เกือบนำ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ดาวรุ่งตัวสำรองหาโอกาสเปิดบอลจากขวาเข้าไปหน้าประตู คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ตวัดยิงระยะ 8 หลาแต่วางเท้าผิดเหลี่ยมทำให้ซัดบอลหลุดเป้าหมายไปแบบเสียของ
จากนั้นไม่มีฝ่ายทำประตูกันได้ทำให้ต้องตัดสินที่การดวลจุดโทษซึ่งเป็นฝรั่งเศสยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไป 5-3 ทำให้เข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ สเปน ส่วน โปรตุเกส ปิดฉากทัวร์นาเมนต์นี้เพียงรอบ 8 ทีม
โปรตุเกส : ดีโอโก้ คอสต้า – ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอาส, เปเป้, นูโน่ เมนเดส – วิตินญ่า, ชูเอา ปาลินญ่า – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ราฟาเอล เลเอา – คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ฝรั่งเศส : ไมค์ เมนญ็อง – ชูลส์ กุนเด้, วิลเลียม ซาลีบา, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ – โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอ็นโกโล ก็องเต้, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า – อองตวน กรีซมันน์, ร็องดาล โกโล มูอานี่, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote
{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote
0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})
ต้า มั่นใจลูกเก๋าวิลเชียร์ไปได้สวยโค้ชชุดใหญ่ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เมรีโน่ยอมรับปืนเคี่ยวหนักเรื่องเซตพีซ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เอเมรี่เร้าวิลล่ากล้าฝันแชมป์รูปธรรม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ผีแดงยิ้มออกโยโร่เริ่มซ้อมเดี่ยว วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ยอร์เกนเซ่นฟื้นคอนคัสชั่นคืนสิงห์ยูโรปาคอนฯ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
โครสเผยยากสุดคือขออนุญาต อันเช่ กับลูกรีไทร์ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567