เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) มีการยื่นคดีฟ้องร้องต่อบริษัททวิตเตอร์ ด้วยข้อกล่าวหาว่า ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานหลายพันคนที่ถูกปลดออกจากงานหลัง อีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการ รวมเป็นเงินอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 หมื่นล้านบาท)
คอร์ตนีย์ แม็กมิลเลียน อดีตผู้ดูแลโครงการสวัสดิการพนักงานของทวิตเตอร์ ซึ่งถูกปลดออกจากงานเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ยื่นฟ้องทวิตเตอร์ต่อศาลรัฐบาลกลางซานฟรานซิสโกในการดำเนินคดีแบบรวมกลุ่มกันฟ้อง
แม็กมิลเลียนอ้างว่า ภายใต้แผนการเลิกจ้างที่จัดทำขึ้นโดยทวิตเตอร์ในปี 2019 พนักงานส่วนใหญ่ได้รับสัญญาว่า จะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินค่าจ้าง 2 เดือน บวกกับค่าจ้างอีก 1 สัปดาห์สำหรับอายุการทำงานแต่ละปี เฉพาะกรณีของแม็กมิลเลียน ทวิตเตอร์ค้างเงินชดเชยเทียบเท่าค่าจ้าง 6 เดือน
แต่แม็กมิลเลียนบอกว่า “ทวิตเตอร์ให้เงินชดเชยแก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุดเพียง 1 เดือนเท่านั้น และหลายคนไม่ได้รับอะไรเลย”
นับตั้งแต่ที่ อีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์สำเร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2022 ก็ได้มีการเลิกจ้างพนักงานกว่าครึ่งเพื่อลดต้นทุนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1
การรวมกลุ่มฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการกล่าวหาว่าทวิตเตอร์และมัสก์ละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลางว่าด้วยผลประโยชน์และสวัสดิการของแรงงาน โดยก่อนหน้านี้ทวิตเตอร์เคยถูกฟ้องเรื่องไม่จ่ายเงินชดเชยแล้ว แต่คดีเหล่านั้นฟ้องเรื่องการละเมิดสัญญาจ้าง ไม่ใช่กฎหมายสวัสดิการ
นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญกับคดีความอีกหลายคดีที่เกิดจากการปลดพนักงาน รวมถึงการฟ้องร้องกรณีที่บริษัทเน้นปลดพนักงานผู้หญิงและพนักงานงานที่มีความทุพพลภาพ
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP